Vertical Spread
Vertical Spread
Vertical Spread คืออะไร?
Vertical Spread คือการเปิดสถานะสองขาของ Option ประเภทเดียวกัน (Call กับ Call หรือ Put กับ Put) โดยมี Strike Price ต่างกัน แต่วันหมดอายุเดียวกัน
กลยุทธ์นี้ช่วยบริหารความเสี่ยงและควบคุมต้นทุนได้ดีมากเมื่อเทียบกับการถือ Option เดี่ยว ๆ
ประเภทของ Vertical Spread
1. Debit Spread
- จ่ายเงินสุทธิ (Net Debit) เพื่อเปิดสถานะ
- หวังว่าจะได้กำไรมากกว่าค่าใช้จ่ายเมื่อราคาขยับในทิศทางที่คาดหวัง
ตัวอย่าง:
- Bull Call Spread (ซื้อ Call ราคาต่ำ + ขาย Call ราคาสูง)
- Bear Put Spread (ซื้อ Put ราคาสูง + ขาย Put ราคาต่ำ)
2. Credit Spread
- รับเงินสุทธิ (Net Credit) ตอนเปิดสถานะ
- หวังว่าราคาจะอยู่ “ภายใน” กรอบที่กำหนดเพื่อให้ Option หมดค่า และเก็บ Premium เต็มจำนวน
ตัวอย่าง:
- Bear Call Spread (ขาย Call ราคาต่ำ + ซื้อ Call ราคาสูง)
- Bull Put Spread (ขาย Put ราคาสูง + ซื้อ Put ราคาต่ำ)
เปรียบเทียบ Debit vs Credit Spread
ประเภท | การเข้าใจง่าย | ความเสี่ยง | ผลตอบแทน |
---|---|---|---|
Debit Spread | ง่ายกว่า (เหมือนเทรดทิศทาง) | จำกัด | จำกัด |
Credit Spread | ซับซ้อนกว่าเล็กน้อย (เล่น Time Decay) | จำกัด | จำกัด |
Debit Spread เหมาะกับตลาดที่คาดว่าราคาจะเคลื่อนไหวแรง ส่วน Credit Spread เหมาะกับตลาด Sideway หรือคาดว่าราคาจะไม่ไปไกล
ตัวอย่างการตั้งค่า Bull Call Spread
- ราคาหุ้นปัจจุบัน: 100 บาท
- ซื้อ Call Strike 100 → จ่าย 5 บาท
- ขาย Call Strike 110 → รับ 2 บาท
สรุป:
- Net Debit = 5 - 2 = 3 บาท
- Max Profit = (110 - 100) - 3 = 7 บาท
- Max Loss = 3 บาท
- Breakeven = 100 + 3 = 103 บาท
การบริหารความเสี่ยง
- ควบคุมขาดทุนสูงสุดได้ล่วงหน้า (ตาม Net Debit หรือ Net Credit)
- ใช้ Stop-Loss หากราคา Underlying ผิดทางชัดเจน
- ใช้ Time Management บริหาร Theta Decay หากถือใกล้วันหมดอายุ
ข้อดี / ข้อเสียของ Vertical Spread
ข้อดี
- ควบคุมต้นทุนและความเสี่ยงได้ชัดเจน
- ประยุกต์ได้ทั้งทิศทางขาขึ้น/ขาลง
- ใช้ประโยชน์จาก Volatility และ Time Decay ได้
ข้อเสีย
- กำไรจำกัด (ไม่เหมือนการถือ Option เดี่ยวแบบ Long Call/Long Put)
- ต้องเลือก Strike และ Expiration อย่างระมัดระวัง
สรุป
- Vertical Spread เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังมากสำหรับการบริหารความเสี่ยงในการเทรด Option
- เข้าใจประเภทของ Spread และเลือกให้เหมาะสมกับมุมมองตลาด จะช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนอย่างมีประสิทธิภาพ