Adjusting position
การปรับกลยุทธ์ Collar
กลยุทธ์ Collar สามารถปรับได้ระหว่างที่ถือครอง หากนักลงทุนไม่ต้องการใช้ออปชั่นเมื่อถึงวันหมดอายุ โดยเฉพาะในกรณีที่ยังไม่ต้องการปิดสถานะ Long Stock นักลงทุนสามารถปรับสัญญาออปชั่นที่มีอยู่ (ทั้ง Call และ Put) เพื่อยืดอายุการถือ หรือเปลี่ยนระดับราคาให้เหมาะสมกับสถานการณ์ตลาดปัจจุบัน
การปรับเมื่อ Put กำลังถูกท้าทาย
หากราคาเคลื่อนไหวต่ำลง จนทำให้ Put มีค่าในเชิง Intrinsic นักลงทุนอาจเลือกปรับ Short Call โดย:
- ซื้อ Call เดิมคืน (Buy-to-Close)
- ขาย Call ใหม่ที่มี Strike ใกล้ราคาหุ้นปัจจุบัน (Sell-to-Open)
ตัวอย่าง:
สมมติกลยุทธ์ Collar เริ่มจากการขาย Call ที่ Strike $105 และซื้อ Put ที่ $95
หากราคาหุ้นลดลง นักลงทุนอาจ:
- ซื้อ Call ที่ $105 คืน
- ขาย Call ใหม่ที่ Strike $100
การปรับนี้ช่วยเพิ่ม Credit และลดต้นทุนรวมของกลยุทธ์
การปรับเมื่อมองว่าราคาจะเคลื่อนไหวต่อ
ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อว่าราคาจะดีดกลับจากจุดต่ำสุด หรือเชื่อว่าจะปรับตัวขึ้นต่อหลังจากราคาขยับสูงขึ้น นักลงทุนสามารถ Roll กลยุทธ์ออกไปในอนาคต ได้
Rolling a Collar
การ Roll กลยุทธ์ Collar คือการยืดอายุของสถานะโดยการ:
- ปิดสถานะเดิม:
- Buy-to-Close (BTC) Covered Call
- Sell-to-Close (STC) Protective Put
- เปิดสถานะใหม่สำหรับวันหมดอายุใหม่:
- สามารถใช้ Strike เดิม หรือ ปรับขึ้น/ลง ให้สะท้อนราคาหุ้นปัจจุบัน
การ Roll ช่วยให้นักลงทุนรักษาการป้องกัน (hedge) และเปิดโอกาสให้ได้ผลตอบแทนจากการเคลื่อนไหวของหุ้นในอนาคต
Hedging a Collar
โดยปกติแล้ว Collar ไม่จำเป็นต้อง Hedge เพิ่มเติม
เนื่องจากลักษณะของกลยุทธ์เองก็ถือเป็นการ Hedge อยู่แล้ว:
- การถือหุ้น (Long Stock) มีแนวโน้มขาขึ้น
- การซื้อ Put ช่วยป้องกันการขาดทุนในกรณีที่ราคาลดลง
- การขาย Call ช่วยลดต้นทุนด้วย Premium ที่ได้รับ
การปรับหรือ Roll กลยุทธ์จึงเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพ มากกว่าการป้องกันความเสี่ยงใหม่