Long vs Short Option

Long vs Short คืออะไร?

ในโลกของ Option และการลงทุนทั่วไป
Long และ Short เป็นวิธีเรียกสถานะการถือสัญญา

• Long → ถือสิทธิ์ (ซื้อสิทธิ์)
• Short → เป็นฝ่ายขายสิทธิ์ (รับภาระผูกพัน)

เข้าใจ Long Option อย่างละเอียด

Long Option = การ ซื้อสิทธิ์
ผู้ซื้อจ่าย Premium เพื่อได้สิทธิ์ในการ “ซื้อ” หรือ “ขาย” สินทรัพย์ในอนาคต

Long Call (ซื้อสิทธิ์ในการซื้อ)

• หวังว่าราคาจะ “ขึ้น”

• มีสิทธิ์ซื้อสินทรัพย์ในราคาที่กำหนดไว้ (Strike Price)

  ตัวอย่าง:
  คุณซื้อ Call Option หุ้น A (Strike 100 บาท, Premium 5 บาท)
  หากราคาหุ้นขึ้นไป 120 บาท → คุณใช้สิทธิซื้อที่ 100 แล้วขายในตลาด → กำไร

Long Put (ซื้อสิทธิ์ในการขาย)

• หวังว่าราคาจะ “ลง”

• มีสิทธิ์ขายสินทรัพย์ในราคาที่กำหนด

  ตัวอย่าง:
  คุณซื้อ Put Option หุ้น B (Strike 100 บาท, Premium 5 บาท)
  หากราคาหุ้นลดลงเหลือ 80 บาท → คุณใช้สิทธิขายที่ 100 → กำไรจากการป้องกันขาดทุน

เข้าใจ Short Option อย่างละเอียด

Short Option = การ ขายสิทธิ์
ผู้ขายรับ Premium แต่ต้องยอมรับความเสี่ยงที่อาจตามมา หากผู้ซื้อใช้สิทธิ

Short Call (ขายสิทธิ์ในการซื้อ)

• หวังว่าราคาจะ “ไม่ขึ้นแรง”

• ถ้าราคาตลาดไม่สูงเกิน Strike → ผู้ขายได้กำไรเต็ม Premium

  ตัวอย่าง:
  คุณขาย Call Option หุ้น C (Strike 100 บาท, Premium 5 บาท)
  หากหุ้นขึ้นไป 120 บาท → คุณต้องขายหุ้นในราคา 100 บาท → ขาดทุนหนัก

Short Put (ขายสิทธิ์ในการขาย)

• หวังว่าราคาจะ “ไม่ตกแรง”

• ถ้าราคาตลาดไม่ตกต่ำ → ผู้ขายได้กำไรเต็ม Premium

  ตัวอย่าง:
  คุณขาย Put Option หุ้น D (Strike 100 บาท, Premium 5 บาท)
  หากหุ้นตกไป 70 บาท → คุณต้องซื้อหุ้นในราคา 100 บาท → ขาดทุนหนัก

ตัวอย่างชีวิตจริง: ซื้อสิทธิ์ และขายสิทธิ์

ซื้อสิทธิ์ (Long)

คุณจองคอนโดในราคาพิเศษ 3 ล้านบาท (Premium 50,000 บาท)
ถ้าราคาตลาดขึ้นไป 3.5 ล้านบาท → คุณใช้สิทธิ์ซื้อ แล้วทำกำไรจากการขายห้อง

ขายสิทธิ์ (Short)

คุณถือใบจองคอนโด แล้วขายใบจองให้คนอื่นในราคา 100,000 บาท
→ คุณรับกำไรจากการขายสิทธิ์ โดยไม่ต้องซื้อห้องเอง

เปรียบเทียบ Long กับ Short แบบสรุป

สรุปเนื้อหา