Delta และ Theta สำหรับ Wheel Traders

Delta และ Theta สำหรับ Wheel Traders

เคยรู้สึกว่าการเทรดออปชั่นมันเหมือนกับการขับยานอวกาศมั้ย? ปุ่มเยอะแยะ ไฟกระพริบเต็มไปหมด แถมยังมีสัญลักษณ์แปลก ๆ ที่เรียกว่า “Greeks” อีก… ถ้าคุณรู้สึกแบบนั้น บอกเลยว่าไม่ใช่แค่คุณคนเดียว! ข่าวดีคือคุณไม่ต้องเป็นนักฟิสิกส์อวกาศเพื่อเข้าใจมัน วันนี้เราจะมาอธิบาย 2 ตัวหลักที่สำคัญที่สุดสำหรับคนเล่น Wheel Strategy ได้แก่ Delta และ Theta แบบง่าย ๆ เข้าใจได้ใน 5 นาที


Greeks คืออะไร?

ในโลกของออปชั่น “Greeks” คือค่าที่ใช้วัดความเสี่ยงของออปชั่นในมิติต่าง ๆ
คล้ายกับ “สัญญาณชีพ” ของสัญญาออปชั่นแต่ละตัว โดยประกอบด้วย:

  • Delta
  • Theta
  • Gamma
  • Vega
  • Rho

แต่วันนี้เราจะโฟกัสที่สองตัวที่สำคัญที่สุดสำหรับกลยุทธ์ Wheel นั่นคือ…


Delta: มาตรวัดความเร็วของราคาออปชั่น

Delta คือค่าที่บอกว่า ราคาของออปชั่นจะเปลี่ยนไปเท่าไร ถ้าราคาหุ้นเปลี่ยนไป $1

  • Call Option → Delta อยู่ระหว่าง 0 ถึง 1
  • Put Option → Delta อยู่ระหว่าง -1 ถึง 0

ตัวอย่าง

คุณมี Call Option ที่ Delta = 0.60
ถ้าราคาหุ้นเพิ่มขึ้น $1 → มูลค่าออปชั่นเพิ่มขึ้นประมาณ $0.60

แล้ว Delta สำคัญอย่างไรกับคนที่ใช้ Wheel Strategy?

เพราะกลยุทธ์ Wheel เกี่ยวข้องกับการ ขาย Put และ Call Options

การใช้ Delta มีประโยชน์ดังนี้:

  • เลือก Strike Price ที่เหมาะสม:
    Delta สามารถใช้คาดการณ์โอกาสที่ออปชั่นจะหมดอายุแบบ In-the-Money → ใช้คัดเลือก Strike ที่มีความเสี่ยงต่ำหรือสูงตามต้องการ

  • บริหารความเสี่ยง:
    Delta บอกคุณว่าออปชั่นจะตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้นอย่างไร → ช่วยให้คุณรู้ว่าพอร์ตของคุณ “เสี่ยงมากน้อยแค่ไหน” กับการเคลื่อนไหวของราคา


Theta: โจรขโมยมูลค่าในเวลากลางคืน

Theta คือค่าที่บอกว่า ออปชั่นจะลดมูลค่าไปเท่าไร “ต่อวัน” เพราะเวลาเดิน

  • Theta มักเป็น ค่าลบ → เพราะออปชั่นจะเสื่อมมูลค่าลงเรื่อย ๆ เมื่อเวลาผ่านไป
  • ยิ่งใกล้หมดอายุ → Theta ยิ่ง “กัดกิน” มูลค่าเร็วขึ้น

ตัวอย่าง

คุณถือออปชั่นที่มี Theta = -0.10
ทุกวันที่ผ่านไป → มูลค่าของออปชั่นลดลง ~$0.10 ต่อสัญญา


🧠 แล้ว Theta สำคัญอย่างไรกับคนที่ใช้ Wheel Strategy?

เพราะ Wheel Strategy ใช้การ ขายออปชั่นสั้น ทั้ง Put และ Call เพื่อกิน Time Decay

Theta ช่วยให้คุณ:

  • คาดการณ์รายได้ล่วงหน้า:
    คุณสามารถใช้ Theta เพื่อประเมินว่าในแต่ละวันคุณจะได้ “ย่อยมูลค่า” ของออปชั่นมากแค่ไหน

  • ตัดสินใจว่าจะ Roll หรือปิดสัญญาเมื่อไหร่:
    เมื่อพรีเมียมเหลือน้อย → คุณอาจ Roll ไปเดือนใหม่หรือปิดเพื่อปลดพอร์ต

ยิ่ง Theta สูง (เป็นลบมาก) → ยิ่งได้ “ค่าเช่าเวลา” มาก แต่ก็ต้องระวังไม่ถือใกล้หมดอายุเกินไป เพราะความเสี่ยงสูงขึ้นเช่นกัน

Delta และ Theta: ทำงานร่วมกันอย่างไร?

นึกภาพว่า Delta คือความไวต่อการ “เปลี่ยนแปลงราคา”
ส่วน Theta คือความไวต่อ “การเปลี่ยนแปลงของเวลา”

การเข้าใจทั้งสองค่าช่วยให้คุณ:

  • วาง Strike ที่สมดุลระหว่าง “ความเสี่ยงที่จะโดน Assign” (Delta) และ “รายได้จากพรีเมียม” (Theta)
  • รู้ว่าเมื่อใดควร “ปล่อยให้หมดอายุ” หรือ “Roll ไปข้างหน้า”

ตัวอย่างการใช้ร่วมกัน

คุณขาย Put Option:

  • Delta = -0.30 → มีโอกาส ~30% ที่จะถูก Assign
  • Theta = -0.10 → ได้ “ค่าเสื่อมราคา” วันละ ~$10 ต่อสัญญา (สำหรับ 100 หุ้น)

ถ้าราคาหุ้นไม่ลงแรงเกินไป → คุณได้เก็บพรีเมียมและปล่อยหมดอายุ
ถ้าหุ้นลงมาจริง → คุณก็ซื้อหุ้นในราคาที่คุณ “ยินดีซื้อ” อยู่แล้ว


สรุป

  • Delta ช่วยคุณเลือก Strike ที่เหมาะสมกับความเสี่ยง
  • Theta คือรายได้ที่คุณได้จากการถือสัญญาทุกวัน
  • การเข้าใจทั้งคู่ทำให้คุณ “เล่น Wheel ได้ฉลาดขึ้น” และคุมความเสี่ยงได้ดีขึ้น
  • อย่าดูแค่พรีเมียม → ดู Delta และ Theta ควบคู่กันทุกครั้งก่อนเปิดสัญญา