ตัวอย่างจริงของการ Hedge ด้วย Options
ตัวอย่างจริงของการ Hedge ด้วย Options
1. Protective Put
สถานการณ์:
- ถือหุ้น A มูลค่า 100 บาท จำนวน 100 หุ้น (10,000 บาท)
- ซื้อ Put Option Strike 95 ราคา 2 บาท
คำนวณ:
- ต้นทุน Hedge = 2 บาท × 100 หุ้น = 200 บาท
กรณีต่าง ๆ:
- หุ้นขึ้น (เช่น ไป 110 บาท): ได้กำไรจากหุ้น แต่ขาดทุน Premium Put 200 บาท
- หุ้นตก (เช่น เหลือ 85 บาท): ขาดทุนหุ้น 1,500 บาท แต่ได้กำไรจาก Put 1,000 บาท → ลดการขาดทุนรวม
- หุ้นนิ่ง (เช่น อยู่ที่ 100 บาท): ขาดทุนเฉพาะ Premium Put 200 บาท
2. Collar Strategy
สถานการณ์:
- ถือหุ้น A ราคา 100 บาท จำนวน 100 หุ้น
- ซื้อ Put Strike 95 (2 บาท) และขาย Call Strike 105 (2 บาท)
คำนวณ:
- Net Premium = 0 บาท (Offset ค่าใช้จ่าย)
กรณีต่าง ๆ:
- หุ้นขึ้นเกิน 105 บาท: ถูกบังคับขายหุ้นที่ 105 บาท → กำไรจำกัด
- หุ้นตกต่ำกว่า 95 บาท: ใช้ Put ป้องกันขาดทุน → จำกัด Drawdown
- หุ้นนิ่งระหว่าง 95-105 บาท: ไม่กระทบ ตำแหน่งหมดอายุไร้ค่า
3. Bear Put Spread
สถานการณ์:
- ไม่ถือหุ้น แต่ต้องการ Hedge การปรับฐานของตลาด
- ซื้อ Put Strike 100 (5 บาท)
- ขาย Put Strike 90 (2 บาท)
คำนวณ:
- Net Cost = 5 - 2 = 3 บาท
- Max Profit = (100 - 90) - 3 = 7 บาทต่อสัญญา
กรณีต่าง ๆ:
- หุ้นตกแรง (เช่น ไป 85 บาท): ได้ Max Profit เต็ม 7 บาท
- หุ้นนิ่ง (เช่น อยู่ที่ 100 บาท): เสีย Premium เต็ม 3 บาท
- หุ้นขึ้น (เช่น ไป 105 บาท): เสีย Premium เต็ม 3 บาท
4. Hedge ด้วย Index Options หรือ ETF Options
สถานการณ์:
- พอร์ตหุ้นรวมมูลค่า 500,000 บาท
- ใช้ SPY ETF เพื่อ Hedge ด้วยการซื้อ Put Options
คำนวณ:
- ราคา SPY สมมุติที่ 500 บาท
- 1 สัญญา SPY Options คุม 100 หุ้น → 500 × 100 = 50,000 บาทต่อสัญญา
- ต้องซื้อ 10 สัญญา SPY Put เพื่อ Hedge พอร์ต 500,000 บาท
กรณีต่าง ๆ:
- ตลาดตกแรง: มูลค่าพอร์ตลดลง แต่มูลค่า SPY Put เพิ่ม → ลดการขาดทุนรวม
- ตลาดขึ้นแรง: มูลค่าพอร์ตเพิ่ม แต่ Put Options อาจหมดค่า → เสียแค่ Premium
- ตลาดนิ่ง: Premium ของ Put Option สลายตัวตามเวลา
สรุปเปรียบเทียบ
| กลยุทธ์ | ต้นทุน | จำกัดกำไร | จำกัดขาดทุน | เหมาะกับสถานการณ์ |
|---|---|---|---|---|
| Protective Put | มี | ไม่จำกัด | จำกัด | ป้องกัน Drawdown แต่ยอมเสีย Premium |
| Collar Strategy | ต่ำ (หรือศูนย์) | จำกัด | จำกัด | ป้องกัน Drawdown พร้อมยอมรับกำไรจำกัด |
| Bear Put Spread | ปานกลาง | จำกัด | จำกัด | Hedge เมื่อมองตลาดมีแนวโน้มลง |
| Index Hedge | ปานกลาง | ไม่จำกัด | จำกัด | พอร์ตใหญ่ ต้องการ Hedge โดยรวม |
การวางกลยุทธ์ Hedge ต้องพิจารณาผลลัพธ์ที่เป็นไปได้ทั้ง 3 กรณี คือ ตลาดขึ้น ตลาดตก และตลาดนิ่ง เพื่อเลือกแนวทางที่เหมาะสมที่สุดกับเป้าหมายของตัวเอง